• ไส้หมู (ไส้ธรรมชาติ) จะมีความยืดหยุ่นของขนาด ให้ความบางกรอบ ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับคุณภาพไส้หมูที่นำมาผลิต
  • ไส้คอลลาเจน (ไส้เทียม) ขนาดจะพอดีกว่าไส้แท้ ให้ความบางสเหมือนไส้แท้ ทั้งนี้ทั้งนั้น ไส้คอลลาเจนจะมีหลากหลายประเภทด้วยกัน

วิธีใช้
นำไส้มาล้างน้ำให้สะอาด โดยไม่ต้องแช่น้ำทึ้งไว้ เนื่องจากจะทำให้ไส้เปื่อยและขาดได้ง่าย

การเก็บรักษา
เก็บเฉพาะส่วนที่แห้งเท่านั้น (ถ้าล้างน้ำแล้ว ไม่แนะนำให้เก็บ เมื่อนำกลับมาใช้ใหม่ไส้จะเปื่อยได้)

ระยะเวลา

  1. วางไว้ด้านนอก ในที่ร่ม ไม่โดนแดด อยู่ได้ 3 เดือน
  2. ใส่ตู้เย็นช่องธรรมดา อยู่ได้ 1 ปี
  3. ช่องฟีส อยู่ได้ 1-2 ปี

วิธีใช้
เนื่องจากผ่านการฆ่าเชื้อมาแล้ว ไม่จำเป็นต้องล้างทำความสะอาด แต่อาจแช่น้ำให้นิ่มก่อนนำไปยัดไส้

การเก็บรักษา และระยะเวลา
หากใช้ไส้คอลลาเจนไม่หมด ให้เก็บใส่ถุงซิปล็อคหรือถุงพลาสติกที่มีฝาปิดสนิท จากนั้นนำไปแช่ในตู้เย็นช่องธรรมดาได้ ไส้คอลลาเจนจะคงคุณภาพอยู่ได้นานประมาณ 6 เดือน

เป็นไปได้หลากหลายปัจจัย

  • ส่วนผสม : ในกรณีที่มันหมูไม่สด หรือใช้มันเปลว จะทำให้ไส้กรอกแตกได้ง่าย
  • กรรมวิธีการผลิต : ไส้กรอกตากไม้แห้ง ไม่เจาะรู จะทำให้ไส้กรอกแตกได้ง่าย
  • คุณภาพของไส้ : ไส้บางเกินไป ไส้ไม่มีคุณภาพ มีรูเล็กมากๆบนไส้ ที่ไม่สามารถมองเห็น จะทำให้ไส้กรอกแตกได้ง่าย

ทำมาจากโปรตีนชนิดหนึ่งที่พบได้ในผิวหนัง กระดูก และเอ็นของสัตว์ โดยนำมาผ่านกระบวนการผลิตจนอัดเป็นแท่ง

  • ไส้หมูที่ได้คุณภาพ :จะเป็นไส้ใหม่ ผลิตสดๆ ไส้ขาว ถึงขาวเหลือง กรอกน้ำแล้วไม่มีรูรั่ว ทำสินค้าออกมาจะไม่มีความเหนียว บาง กรอบ
  • ไส้หมูที่ไม่ได้คุณภาพ : จะเป็นไส้ที่ค้าง เก่า มีกลิ่น สีคล้ำ ไส้หนา ไส้เปื่อยใช้แล้วแตก (ไส้ไม่ได้คุณภาพจะมีผลต่อสินค้าที่ผลิตได้)

คุณภาพไส้ไม่สามารถมองด้วยตาเปล่าได้ บางทีไส้สีขาว แต่คุณภาพกลับไม่ดี เปื่อยแตกง่าย ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องอาศัยความชำนานการคัดไส้

ไส้หมูโดยทั่วไปมีกลิ่นจำเพาะอยู่แล้ว แต่จะไม่ใช่กลิ่นเหม็นเน่า ถ้านำไปผึ่งลม 1- 2 ชม. กลิ่นก็จะหายไป

  • ไส้แกะ
  • ไส้คอลลาเจน ทำมาจากโปรตีนชนิดหนึ่งที่พบได้ในผิวหนังของวัว

คุณภาพไส้ไม่ดี ไส้จะมีสีเหลือง ดูหนา แต่ทัั้งนี้ทั้งนั้นไส้ที่มีสีขาวแต่เป็นไส้เก่า ก็ทำให้เหนียวได้เหมือนกัน ต้องอาศัยความชำนาญในการผลิตและคัดสรร

ไส้คอลลาเจน มีหลากหลายประเภท ขึ้นอยู่กับลักษณะของผลิตภัณฑ์และความต้องการใช้งาน เช่น ทำไส้กรอกอีสานแบบทอด กับ ไส้กรอกรมควัน จะใช้ไส้คอลลาเจนแตกต่าง เนื่องจากอุณหภูมิที่ใช้ไม่เหมือนกัน จึงต้องอาศัยความชำนานการคัดสรรให้เหมาะกับความต้องการ